ศัลยกรรมจากแพทย์ไทยและเกาหลี
ผิวสวย หน้าใส
ราคาเริ่มต้นที่
ตัวเลือกศัลยกรรม
เทคโนโลยี | Thermage ● Thermage FLX ● Vascular Laser ● Pigmented Laser ● Diode Laser ● CO2 Laser |
---|---|
ความยาวคลื่น | 755 นาโนเมตร ● 810 นาโนเมตร ● 1,064 นาโนเมตร |
แพทย์ของประเทศ | ประเทศไทย, ประเทศเกาหลี |
เรารวบรวมข้อมูลการดูแลผิวให้สวยใส ไว้ที่นี่แล้ว
ทุกท่านสามารถเลือกอ่านข้อมูลที่คัดสรรให้ มาประกอบการตัดสินทำหัตถการทางการแพทย์เพื่อให้หน้าดูสวยและอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอยและจุดด่างดำได้เลยค่ะ การทำจะให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจต้องเลือกหัตถการให้ถูกประเภทตามข้อมูลด้านล่างนี้เลยค่ะ
ยกกระชับผิวหน้า รอบตา ลดริ้วรอย ลดรอยคล้ำใต้ตา
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับหน้า ทำให้ใบหน้าเรียว เฟิร์ม กรอบหน้าชัด ลดริ้วรอย และดูอ่อนเยาว์ แต่การยกกระชับหน้าแบบไหนดีที่จะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น นั่นก็คือ เทอร์มาจ (Thermage)
ทำความรู้จัก “เทอร์มาจ (Thermage) และ Thermage FLX”
เทอร์มาจ (Thermage) เทคโนโลยีการยกกระชับผิวโดยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency: RF) ไปยังผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Collagen) ส่งผลให้ผิวที่หย่อนคล้อยตึงกระชับขึ้น เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ยกคิ้ว ริ้วรอยร่องแก้ม เก็บกรอบหน้า ลดเหนียง คางสองชั้น และแขนขา หน้าท้องที่หย่อนคล้อย เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) แล้วว่ามีความปลอดภัยสูง
Thermage FLX นวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด
ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยี Thermage รุ่นใหม่เป็น Thermage FLX Generation 4 ซึ่งแตกต่างจาก Thermage รุ่นเดิมดังนี้
- ปล่อยพลังงานได้ลึกกว่าเดิม ด้วย New Total Tip 4.0 รุ่นใหม่ที่ช่วยส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวได้ลึก 4.3 mm.เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ปรับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ด้วยการประมวลผลแบบ Real Time ทำให้มีการปล่อยพลังงานได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น และผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- ประหยัดเวลาในการรักษา ด้วยหัวยิงใหม่ที่ใช้จำนวนช็อต (Shot) ที่น้อยลงกว่ารุ่นก่อน แต่ให้ประสิทธิภาพที่ดีเหมือนกัน และยังช่วยให้รู้สึกสบายผิวมากกว่าเพราะจำนวนช็อตที่น้อยลง ลดเวลาการรักษาลง 20-25% หรือ 18 นาที
- รู้สึกสบายผิวกว่า ด้วยระบบหัวสั่นที่นุ่มนวล หลายทิศทาง ที่ช่วยลดความเจ็บระหว่างทำ (เป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ปกติ)
- ป้องกันไม่ให้ความร้อนสะสมใต้ผิวหนังมากเกินไป ด้วยระบบ Pre and Post Cooling ทำให้ผิวปลอดภัย
Thermage FLX ทำส่วนใดได้บ้าง
- ใบหน้า เหมาะกับผู้ที่มีผิวใบหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง แก้มห้อย มีเหนียง ผิวใต้คางหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด รวมถึงมีริ้วรอย เช่น รอบดวงตา ริมผีปาก ฯลฯ และต้องการให้ใบหน้าเรียวกระชับ
- รอบดวงตา เหมาะกับผู้ที่มีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย มีริ้วรอย รวมถึงผู้ที่ต้องการยกคิ้วให้ได้รูป
- ลำตัว เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังต้นแขน, หลังมือ, หน้าท้อง, สะโพก, ต้นขาที่หย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียน มีรอยย่น
ขั้นตอนการทำ Thermage FLX
ทายาชาบนผิวหนัง ขณะส่งผ่านพลังงาน คุณจะรู้สึกร้อนลึก ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ความรู้สึกร้อนดังกล่าวบ่งบอกว่า คอลลาเจนได้รับความร้อนในระดับที่ทำให้ผิวกระชับตัวได้ดี ขณะเดียวกันก็มีการปกป้องผิวหนังชั้นบนจากความร้อนโดยการให้ความเย็นเป็นช่วง ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการส่งผ่านพลังงานในแต่ละครั้ง โดยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ควบคุมพลังงานที่ใช้ในการรักษาให้เหมาะสมกับผู้มารับบริการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้เวลาในการทำประมาณ 30-60 นาที (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา)
ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ Thermage FLX
ผลการรักษาจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ เห็นผลทันทีหลังทำการรักษา ทำให้ใบหน้าดูกระชับ หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังทำประมาณ 3-6 เดือน โดยหลังการรักษาจะรู้สึกได้ทันทีว่า ผิวหน้ายกกระชับและผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง สภาพผิวแข็งแรง โดยหลังทำ Thermage FLX ผิวจะเรียบเนียนยกกระชับได้ 1-2 ปี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุ การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลตัวเองหลังรักษาของแต่ละท่าน) โดยสามารถทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้ง
เคล็ดลับเพื่อผิวยกกระชับอย่างยาวนาน
หลังการทำ Thermage FLX ท่านสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที เช่น การแต่งหน้า ออกกำลังกาย และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ และงดการทำทรีทเมนท์และเลเซอร์อื่น ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ รวมถึงหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผิวกลับมาหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้อีก เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อผิวพรรณที่กระชับเรียบเนียนอย่างยาวนาน
ค่ารักษา
แพ็คแกจ | ราคา |
---|---|
ยกกระชับด้วย Thermage FLX รอบดวงตา (450 Shots) | 35,000 บาท |
ยกกระชับด้วย Thermage FLX ใบหน้า (600 Shots) | 60,000 บาท |
ยกกระชับด้วย Thermage FLX หน้าท้อง (900 Shots) | 95,000 บาท |
ยกกระชับด้วย Thermage FLX ต้นแขน หรือ ต้นขา (900 Shots) | 95,000 บาท |
รักษาปานดำ ปานโอตะ กระแดด กระลึก
นอกจากอุปสรรคของผิวที่มี กระ จุดด่างดำแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ ปาน รอยที่ติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด โดยเฉพาะการมีปานที่ใบหน้า รอยตำหนินี้จะดึงความสนใจจากคนรอบข้างให้จ้องมองจนสูญเสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นการมีปานบางชนิดบนผิวหนังที่ใดที่หนึ่งบนร่างกายอาจหมายถึงเนื้อร้ายหรือมะเร็งผิวหนังในอนาคตได้ เช่น ปานดำ หรือปานน้ำตาลบางชนิด หากมีจำนวนมากกว่า 5-6 แห่ง อาจแสดงถึงความผิดปกติ เช่น ความผิดปกติทางระบบประสาท เป็นต้น
ปัจจุบัน การรักษาปานมีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากและได้ผลค่อนข้างดีก็คือการรักษาด้วยเลเซอร์ โดยแพทย์จะเลือกใช้เลเซอร์ที่เหมาะสมกับปานแต่ละชนิด ดังนี้
- การรักษา ปานแดง แพทย์จะใช้ Vascular Laser สำหรับเส้นเลือดซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น V beam (Pulsed Dye Laser)
- การรักษา ปานดำ และปานโอตะ จะใช้ Pigmented Laser ได้แก่ Nd-YAG Laser หรือ Picoway Laser , QS-Alexandrite
การเตรียมตัวก่อนการรักษา
- งดการใช้เครื่องสำอางก่อนมาพบแพทย์
- รักษาสภาพผิวหรือผิวหน้าให้สะอาดและไม่ให้มีการอักเสบหรือเป็นแผลใดๆ
- พักผ่อนให้เต็มที่เพื่อสภาพจิตใจจะได้ไม่เครียดและผิวหนังมีความชุ่มชื่นพร้อมสำหรับการรักษาด้วยเลเซอร์
ขั้นตอนการรักษาด้วย Laser
- หลังการทำความสะอาดผิวหน้า แพทย์จะทายาชาบริเวณที่จะยิงเลเซอร์ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์แพทย์จะยิงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นและปริมาณที่เหมาะสมลงบริเวณที่ต้องการรักษา
- ช่วงที่ทำจะไม่รู้สึกเจ็บมากนักเพราะฤทธิ์ยาชา แต่หลังทำอาจมีอาการเจ็บบ้างหรืออาจมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
- แพทย์จะทายาบริเวณที่ทำเลเซอร์เพื่อป้องกันการติดเชื้อและทำการปิดแผล
ค่ารักษา
แพ็คแกจ | ราคา |
---|---|
ปาน,ปานโอตะ | 1,000 – 10,000 บาท |
ปานดำ, ปานน้ำตาล (ขึ้นอยู่กับขนาด) ด้วยเครื่อง PICOWAY | 2,000 บาทขึ้นไป |
ลบรอยคล้ำบริเวณริมฝีปาก ลบรอยสัก
พูดถึง “การสัก” เป็นอีกหนึ่งแฟชั่นฮิตที่ทั้งวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว หรือศิลปินดารานักร้องทั้งหลายนิยมทำกัน โดยจะสักเป็นชื่อ รูปภาพ ลวดลาย ด้วยสีสันต่างๆ บางคนสักเสริมรัก เป็นสัญลักษณ์แทนกันและกัน หรือแม้แต่สักให้สาวรักสาวหลงก็มี
แต่ครั้นเวลาผ่านไป หลายคนเกิดนึกเบื่อรอยสักขึ้นมา หรือบางทีรักเก่าจบไปแล้วก็ไม่อยากทิ้งรอยสักไว้ตำตาตำใจ บางคนก็อยากลบเพราะมีผลต่อหน้าที่การงานหรือการสมัครงาน ไม่ว่าคุณจะต้องการ ลบรอยสัก ออกไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม สามารถทำได้ ปัจจุบันวิธีลบรอยสักที่นิยมได้รับการยอมรับและได้ผลดีมากที่สุดคือ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์
การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีลบรอยสักที่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมาก ด้วยการใช้พลังงานจากแสงเลเซอร์เข้าไป ทำให้เม็ดสีของหมึกที่สักลงไปที่ผิวหนังแตกตัวกระจายออก กลายเป็นโมเลกุลเล็กๆ ที่ร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้เอง ทำให้รอยสักจางลงไปได้
สำหรับเลเซอร์ที่นิยมใช้ลบรอยสักมีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้มากและได้ผลดี มี 3 ชนิด คือ เลเซอร์ทับทิม (Ruby Laser) , Nd- YAG Laser และ Picoway Laser การเลือกประเภทของเลเซอร์นั้น จะได้ผลดีแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสีที่คุณใช้ในการสัก ความลึกของการสัก และระยะเวลาของการสักว่าสักมานานเท่าไร รวมทั้งปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ที่สักเองด้วย
การเตรียมตัวก่อน ลบรอยสักด้วยเลเซอร์
การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะตรวจผิวหนังบริเวณรอยสักเดิม ประเมินลักษณะสี เพื่อเลือกชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับการลบรอยสักนั้นๆ เพราะรอยสักแต่ละสีต้องใช้เลเซอร์ต่างชนิดกันในการลบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีที่สุด
ขั้นตอนการ ลบรอยสัก ด้วยเลเซอร์
ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นานมาก โดยแพทย์จะแปะยาชาที่ผิวหนังบริเวณที่จะยิงเลเซอร์ให้ก่อน เวลาทำก็จะไม่รู้สึกเจ็บ เพียงแค่รู้สึกเหมือนกับโดนยางดีดที่ผิวหนัง หลังจากทำเสร็จเรียบร้อย อาจจะมีเลือดออกซึมๆ ได้ แพทย์จะทําการป้ายยา และปิดพลาสเตอร์ใสกันน้ำให้
อย่างไรก็ตาม การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ จะหายเกลี้ยงหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สีที่ใช้ในการสัก ความลึกของการสัก เป็นต้น แต่รอยสักจะจางลงเรื่อยๆ ได้มากถึง 95% หลังทำเลเซอร์ประมาณ 5-6 ครั้ง จึงควรพบแพทย์ตามนัด และทำอย่างต่อเนื่อง จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี
รักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว เส้นเลือดฝอยที่ใบหน้า
สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันแล้วมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรก ซ้อน ทำให้เกิดการอักเสบเป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง หากมีการอักเสบมากอาจกลายเป็น “สิวหัวช้าง” ซึ่งจะมีอาการเจ็บมาก บางรายอาจมีไข้ได้
สิวอุดตัน (Non-inflammatory Acne หรือ Comedone) เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน ลักษณะจะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ถ้ามีหัวสีดำ เรียกว่า สิวหัวเปิด หรือ สิวหัวดำ ถ้ามีหัวสีขาว เรียกว่า สิว หัวปิด หรือ สิวหัว ขาว พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัว โดยเฉพาะที่หลัง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก
การรักษาสิว
กรณีสิวอักเสบการรักษาจะมีอยู่ 2 วิธีหลักๆ คือ การรับประทานยาและการทายา อาจใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง หรือใช้สองวิธีร่วมกันก็ขึ้นอยู่กับปัญหาสิวที่เป็นว่ามีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด ถ้าสิวมีการอักเสบมาก กลายเป็นสิวหัวช้าง อาจต้องฉีดยาให้ยุบเร็วขึ้น สำหรับคนที่มีปัญหาสิวอักเสบ จำนวนมากหรือดื้อยาแพทย์อาจใช้วิธี การรักษาด้วยแสง (LED Light ) ที่ช่วยลดการอักเสบของสิว และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย พีแอคเน่ (P. acnes)
กรณีสิวอุดตัน การรักษานอกจากใช้ยาทาแล้ว ก็ยังมีในกลุ่มของยารับประทานที่จะช่วยลดปัญหาผิวมันและสิวอุดตันได้ดี หรืออาจใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตันได้อย่างการผลัดผิวด้วยผงคริสตัล (MD)ซึ่งช่วยให้หัว สิวอุดตันหลุดออกได้
การดูแลตนเองเพื่อไม่ให้เกิดสิว
- ล้างหน้าให้ถูกวิธี ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ เพราะจะทำให้ผิวสูญเสียน้ำมัน ต่อมไขมันจะผลิตน้ำมัน ออกมาชดเชยทำให้เป็นสิวได้
- ไม่ควรขัดหน้าอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองได้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆเพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองและความร้อนจากแดดจะทำให้เกิดเหงื่อ หากผสมกับไขมันหรือฝุ่นอาจทำให้รูขุมขนอุดตันอักเสบได้
- พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึกหรืออดนอน ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มี ประโยชน์
กำจัดขนตามที่ต่าง ๆ เช่น หนวด เครา รักแร้ หน้าแข้ง
การกำจัดขนที่ดี นอกจากควรได้ผลดี สะดวก สบาย ไม่เจ็บแล้วยังต้องไม่ทำร้ายผิวอีกด้วย โรงพยาบาลยันฮี ได้นำนวัตกรรมการกำจัดขนด้วยเครื่อง Soprano ICE Platinum ไดโอดเลเซอร์ (Diode Laser) ที่ผสมผสานเลเซอร์ 3 ความยาวคลื่นเข้าไว้ด้วยกัน (755 , 810 และ 1064 นาโนเมตร) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องกำจัดขนตัวนี้ ด้วยเทคโนโลยี3ช่วงคลื่น หรือ Trio Diode Technology ทำให้การกำจัดขนมีประสิทธิภาพมากขึ้นครอบคลุมการรักษาได้ทุกสภาพผิว ไม่ทำลายผิวแม้จะเป็นบริเวณที่บอบบาง โดยเฉพาะบนใบหน้าทั้งยังสามารถทำการรักษาได้ในทุกสีผิว และในขนทุกประเภท ทั้งสีเข้มและสีอ่อน
มาทำความรู้จักกับเครื่อง Soprano ICE Platinum ให้มากขึ้น
เครื่อง Soprano ICE Platinum มีหลายเทคนิคการรักษา ทั้งวิธีการกำจัดขนแบบ SHR (Super Hair Removal) ซึ่งเจ็บน้อยกว่าเลเซอร์กำจัดขนชนิดอื่นๆ เทคนิค SHR ทำงานโดยการส่งผ่านพลังงานและทำให้เกิดความร้อนสะสมในชั้นผิวในหลายระดับ จึงทำลายเซลล์รากขนอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยี 〖ICE〗^TM ซึ่งเป็น Contact Cooling ปล่อยความเย็นสู่ผิวด้านบนช่วยปกป้องผิวและลดความรู้สึกไม่สบายตัวในขณะทำเลเซอร์
เทคโนโลยี SHR พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การกำจัดขนให้ง่ายยิ่งขึ้น โดยปล่อยพลังงานแบบกวาด(In-Motion) ลงไปที่ผิว ค่อยๆ สะสมพลังงานความร้อนในชั้นผิวจนสูงถึง 50 องศาเซลเซียสเพื่อทำลายเซลล์ต้นกำเนิดขน (Stem cells) ที่บริเวณรากขน การรักษาแบบ SHR ช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกสบาย เหมือนการนวด และใช้เวลาไม่นาน แม้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น บริเวณ แผ่นหลัง หน้าท้อง ต้นขา หน้าแข้ง
นอกจากนี้ ยังมีเทคนิค Stack และ Hair Removal ที่เหมาะสมสำหรับการกำจัดขน ในบริเวณพื้นที่ที่มีส่วนโค้ง เช่น ใบหน้า รักแร้ แขน ขณะรับการรักษาด้วยเทคนิคนี้ จะรู้สึกเหมือนมีแรงดีดเบาๆ อุ่นๆเพียงเล็กน้อย/ไม่เจ็บหรือแสบผิวเหมือนเลเซอร์รุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริม Facial tip ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับพื้นที่เล็กมากๆ เช่น มุมปาก หรือ ระหว่างคิ้ว เป็นต้น
เครื่องไดโอดเลเซอร์กำจัดขน ดีอย่างไร
- นวัตกรรมใหม่ล่าสุด รวม 3 ความยาวคลื่นในหัวเดียว
- ไม่เจ็บ ให้ความรู้สึกสบายเหมือนกับการนวด
- ทำได้กับทุกสีผิว และทุกชนิดเส้นขน
- ปลอดภัย และไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผิว
- เป็นการกำจัดขนที่รวดเร็วแม้จะทำในบริเวณกว้าง
- ไม่มีระยะพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
การกำจัดขนด้วยเครื่อง Soprano ICE Platinum ปลอดภัยแค่ไหน ?
Soprano ICE Platinum ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย จาก US FDA (สหรัฐอเมริกา) /EU (สหภาพยุโรป) และองค์การอาหารและยาของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีหลากหลายงานวิจัยที่รับรองว่าเป็นวิธีการกำจัดขนด้วยแสงเลเซอร์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพสีผิว ด้วยการปล่อยพลังงานทีละน้อยต่อเนื่องกันทำให้ เทคนิค SHR ช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ผิว และทำให้เกิดความร้อนสะสมจนอุณหภูมิสูงพอเหมาะ เพื่อกำจัดและยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขนในบริเวณที่รับการรักษา
ข้อดีของหัวเลเซอร์ทรีโอไดโอดเทคโนโลยี (Trio Diode Technology)
- หัวการรักษาถูกพัฒนาให้เสมือนการรวมกันของเลเซอร์ 3 ความยาวคลื่น (755, 810 และ1064 นาโนเมตร)
- เลเซอร์ทั้ง 3 ความยาวคลื่นครอบคลุมความลึกของรากขนในทุกระดับชั้นผิว
- ตอบโจทย์การกำจัดขนที่ง่าย สะดวก ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
คุณสมบัติของ Trio Diode Technology
- ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร
คุณสมบัติ : มีความสามารถในการจับกับเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ได้ดีมาก จึงเหมาะกับการกำจัดขนได้ทุกสภาพเส้นขน ไม่ว่าจะเป็นสีอ่อน หรือสีเข้มโดยเฉพาะเม็ดสีเมลานินในเส้นขนที่อยู่ไม่ลึก เช่น บริเวณคิ้ว หรือเหนือริมฝีปาก
- ความยาวคลื่น 810 นาโนเมตร
คุณสมบัติ : มีคุณสมบัติในการกำจัดขนได้ทั้งขนสีเข้ม และขนสีอ่อน ทั้งยังสามารถกำจัดขนในคนสีผิวคล้ำได้ ด้วยหัวเลเซอร์ที่มีขนาดพื้นที่ถึง 2 ตารางเซนติเมตร ทำให้การกำจัดขนทำได้อย่างรวดเร็ว
- ความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร
คุณสมบัติ : เป็นเลเซอร์กำจัดขนที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากปลอดภัยในทุกสีผิวถึงความสามารถในการจับกับเซลล์เม็ดสีเมลานิน (Melanin) อาจไม่สูงมากเท่ากับ 755 และ 810 นาโนเมตร แต่ด้วยความลึกของช่วงคลื่นนี้ จึงช่วยให้การรักษาขนที่มีเส้นหนาสีเข้มและมีรากลึกได้ผลดี
กำจัดขนด้วยเครื่อง Soprano ICE Platinum ทำอย่างไร
แพทย์จะซักประวัติเพื่อสอบถามตำแหน่งที่ต้องการรับการรักษา ตรวจประเมินสภาพผิวและเส้นขนอธิบายถึงขั้นตอนการรักษา การดูแลหลังทำเลเซอร์รวมถึงให้ข้อมูลการรักษาต่อเนื่อง ตามระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ข้อควรรู้ การเตรียมตัวก่อนและหลังการยิงเลเซอร์กำจัดขน
- หลีกเลี่ยงการ ถอนหรือแว็กซ์เส้นขน และงดการกำจัดขนด้วยเครื่องทุกประเภทประมาณ 1 เดือนก่อนทำการรักษา
- หลังจากโกนขนบริเวณที่ต้องการรักษาแล้วจึงเริ่มทำการรักษาด้วยเลเซอร์ ความรู้สึกขณะยิงเลเซอร์จะคล้ายโดนดีดผิวเบาๆและรู้สึกอุ่นบริเวณผิว
- ภายหลังการยิงเลเซอร์ผู้รับบริการสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
- หากทำการรักษาบริเวณรักแร้ควรงดเว้นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นใต้วงแขนประมาณ 2 – 3 วัน
- งดเว้นการอาบน้ำอุ่นประมาณ 1 – 2 วันภายหลังการรักษา
- เส้นขนในบริเวณที่ทำการรักษาจะค่อยๆหลุดไปเองในสัปดาห์ที่ 2 และขนที่ขึ้นมาใหม่จะมีขนาดเส้นเล็กลง และจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ
- เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด ควรรักษาอย่างต่อเนื่องตามแพทย์นัด ทุก4-6 สัปดาห์ อย่างน้อย 5-8 ครั้งขึ้นกับบริเวณที่ทำการรักษา ลักษณะเส้นขนและสีขน
ขนไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า รักแร้ อก แข้ง หรือแขนหากมีเส้นใหญ่ หนา แข็ง หรือขึ้นในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ ย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ ทางเลือกที่แสนง่าย สะดวก สบายและปลอดภัย คือการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Soprano ICE Platinumที่แผนกผิวหนังโรงพยาบาลยันฮี ซึ่งดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อความมั่นใจในการเผยผิวสวยเนียน น่าสัมผัสของคุณ
กำจัดไฝ หูด ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ สิวหิน ต่อมไขมันโต
ปัจจุบัน “เลเซอร์” เข้ามามีบทบาทในแวดวงความสวยความงามมากขึ้น โดยเฉพาะการรักษาผิวพรรณให้สวยงามเกลี้ยงเกลา สำหรับคนที่รักสวยรักงามแล้วปัญหา ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ หรือติ่งเนื้อนั้น ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ ทำให้ผิวดูไม่สวยงาม โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นที่ใบหน้า คอ และตัว จะบั่นทอนความมั่นใจอย่างยิ่ง สามารถแก้ไขได้โดยเทคโนโลยีอันทันสมัยอย่างเลเซอร์ก็คือ คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ หรือเรียกสั้นๆ ว่า CO2 Laser
รู้จัก CO2 Laser
การรักษาไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ ในปัจจุบันค่อนข้างง่าย สะดวก ปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก และรวดเร็ว โดยการใช้แสงเลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ซึ่งการใช้แสงเลเซอร์ชนิดนี้มีความแม่นยำสูง สามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการยิ่งเลเซอร์ได้แบบเฉพาะเจาะจง ไม่มีเลือดออก มีเพียงสะเก็ดแผลบนผิว ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง ที่สำคัญต้องอยู่ภายใต้การรักษาจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพักฟื้นใดๆ และสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
CO2 Laser ปลอดภัยแค่ไหน
หลายคนที่กังวลว่าจี้ขี้แมลงวันแล้วเป็นแผล หรือจี้ไฝออกแล้วเป็นหลุม อยากบอกว่าไม่ต้องกังวลไปเพราะเทคโนโลยี CO2 Laser ได้รับการพัฒนาอีกขั้น มีพลังงานสูง ลดระยะเวลาฉายแสงเลเซอร์ให้สั้นลง มีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีขึ้น ทำไม่เกิดผลของเคียงจากการรักษา นอกจากนี้ CO2 Laser ยัง ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาในการรักษาปัญหาผิวหนังได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย
- ไฝ
- ขี้แมลงวัน
- กระเนื้อ
- ติ่งเนื้อ
- รอบคอ ลำตัว รักแร้
- เนื้องอกของต่อมไขมัน
- เนื้องอกของต่อมเหงื่อ
- สิวอุดตันหัวปิด
- สิวข้าวสาร
ข้อดีของการรักษาด้วย CO2 Laser
- เป็นวิธีที่ปลอดภัย
- แผลเล็ก โอกาสเกิดแผลเป็นน้อย
- สามารถกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน และติ่งเนื้อได้ถาวร
- ใช้เวลารักษาไม่นานประมาณ 30 นาที
- ถ้าเทียบกับวิธีอื่นๆ ถือว่าประสิทธิภาพดีกว่ามาก
คำแนะนำก่อนทำ CO2 Laser
- หลีกเลี่ยงการออกแดดประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะอาจจะทำให้มีโอกาสเกิดรอยดำหลังทำได้ง่าย หรือผิวเกิดอาการระคายเคืองได้
- งดแต่งหน้า หรือใช้เครื่องสำอาง เพื่อป้องกันการระคายเคือง
ขั้นตอนรักษาด้วย CO2 Laser
- ทำความสะอาดใบหน้า แล้วแพทย์จะทายาชาบริเวณที่จะทำเลเซอร์ และรอจนกว่ายาชาออกฤทธิ์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที หลายคนที่มีคำถามว่าจี้ไฝออก เจ็บไหม? ไม่จำเป็นต้องกังวลเลย
- ทำการปิดตาเพื่อป้องกันแสงเลเซอร์ จากนั้นแพทย์จะยิงเลเซอร์บริเวณที่รักษา ขณะยิงจะไม่รู้สึกเจ็บและไม่มีการเสียเลือดใดๆ ระยะเวลาในการทำขึ้นกับจำนวนเม็ดที่ยิง เช่น ถ้าไฝ 1 เม็ด ใช้เวลา 5 นาที ถ้าหลายเม็ดทั้งใบหน้า หรือมีจำนวนมาก อาจใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ผลลัพธ์หลังรักษาด้วย CO2 Laser
การกำจัดไฝ และกระ หากมีขนาดเล็ก สามารถเลเซอร์ออกได้ตั้งแต่ครั้งแรกเพียงครั้งเดียว แต่หากมีขนาดใหญ่ จะต้องมาเลเซอร์ซ้ำเพื่อกำจัดรากไฝออกให้หมด จะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน
5 สเต็ป ดูแลผิวหลังรักษา CO2 Laser
- หลังทำเสร็จจะเป็นแผลเล็กๆ หรือมีสะเก็ดเล็กน้อย แพทย์จะทายาป้องกันการติดเชื้อ และติดพลาสเตอร์ใสไว้ เพื่อป้องกันแผลโดนน้ำ
- ควรเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลประมาณ 24 ชั่วโมง และต้องทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ จนครบ 7 วัน สะเก็ดแผลจะหลุดออกเห็นเป็นผิวสีชมพูอยู่ไม่กี่วัน ก็จะหายเป็นปกติ
- หลังทำ 1 วัน สามารถแกะพลาสเตอร์ใสออกและสัมผัสน้ำได้ แพทย์จะให้ยาไปทาต่อที่บ้าน ให้ทำแผลวันละ 2 ครั้ง โดยใช้น้ำเกลือเช็ดแผลให้สะอาด และทายาที่แพทย์ให้ไปเพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อประมาณ 7 วัน ช่วงนี้แผลอาจจะตกสะเก็ดหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีสะเก็ดควรปล่อยให้หลุดไปเอง ห้ามแกะเกาให้สะเก็ดหลุดเร็วขึ้นเด็ดขาด
- ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด เพราะอาจทำให้แผลดำคล้ำขึ้นได้ เมื่อแผลหายเป็นปกติแล้วควรป้องกันผิวด้วยการทาครีมกันแดด
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ทำเลเซอร์จนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ
ทางเลือกวิธีอื่นๆ
จริงๆ แล้วการรักษา ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ และติ่งเนื้อ สามารถทำได้อีกหลายวิธี เช่น การทายา จี้ด้วยไฟฟ้า หรือการผ่าตัด แต่ด้วยปัจจุบันการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ไม่ยุ่งยาก ถ้าทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะมีความปลอดภัย และได้ผิวที่เกลี้ยงเกลาสวยงาม ไม่มีรอยแผลเป็น ทำให้คนนิยมหันมารักษาด้วยเลเซอร์กันมากขึ้น
CO2 Laser ราคา
จี้ไฝ, ขี้แมลงวัน, กระเนื้อ, สิวหิน, ต่อมไขมันโต (จุดที่ 1) จุดละ 1,500 บาท และจุดถัดไป จุดละ350 บาท